เนเฟอร์เนเฟรูอาเตน ตาเชริท
บทความนี้ต้องการการจัดหน้า จัดหมวดหมู่ ใส่ลิงก์ภายใน หรือเก็บกวาดเนื้อหา ให้มีคุณภาพดีขึ้น คุณสามารถปรับปรุงแก้ไขบทความนี้ได้ และนำป้ายออก พิจารณาใช้ป้ายข้อความอื่นเพื่อชี้ชัดข้อบกพร่อง |
เนเฟอร์เนเฟรูอาเตน ตาเชริท ในไฮเออโรกลีฟ | |||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
เนเฟอร์เนเฟรูอาเตน ตาเชริท Nfr nfrw Jtn tꜣšrjt ความงามอันเป็นที่สุดแห่งอาเตน - ผู้เยาว์ | |||||||||||
เจ้าหญิงเนเฟอร์เนเฟรูเรและเจ้าหญิงเนเฟอร์เนเฟรูอาเตน (ด้านขวา) จากภาพวาดบนฝาผนังพระราชวังในเมืองอาร์มานา |
เนเฟอร์เนเฟรูอาเตน ตาเชริท หรือ เนเฟอร์เนเฟรูอาเตน ผู้เยาว์ (มีพระขนม์ชีพในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 14 ก่อนคริสตกาล) เป็นเจ้าหญิงชาวอียิปต์โบราณจากราชวงศ์ที่สิบแปดแห่งอียิปต์โบราณ และเป็นพระราชธิดาพระองค์ที่สี่ในฟาโรห์อเคนาเทนกับพระนางเนเฟอร์ติติ
พระราชวงศ์
[แก้]พระองค์ประสูติในช่วงระหว่างปีที่ 8 หรือปีที่ 9[1] แห่งการครองราชย์ของพระบิดา พระองค์เป็นหนึ่งในบรรดาหกพระราชธิดาในฟาโรห์อเคนาเทนโดยเท่าที่ทราบ และเป็นไปได้ว่าพระองค์จะสูติที่เมืองอเคนาเทน (เมืองอาร์มานาในปัจจุบัน) พระนามของพระองค์คือ เนเฟอร์เนเฟรูอาเตน ซึ่งมีความหมายว่า ความงามของความงามแห่งอาเตน หรือ ความงามอันเป็นที่สุดแห่งอาเตน[2] พระองค์มีพระภคิณีสามพระองค์คือ พระนางเมริทอาเตน, เจ้าหญิงเมเคตอาเตน, พระนางอังค์เอสเอ็นปาอาเตน และมีพระขนิษฐาอีกสองพระองค์คือ เจ้าหญิงเนเฟอร์เนเฟรูเร และเจ้าหญิงเซเตเพนเร[3]
พระประวัติ
[แก้]หลักฐานชิ้นแรกๆ ที่ปรากฏถึงการมีตัวตนของพระองค์คือ ภาพจิตรกรรมฝาผนังในพระราชวังในเมืองอาร์มานาเป็นภาพวาดสีที่บรรยายขณะที่พระองค์กำลังประทับเล่นบนหมอนร่วมกับเจ้าหญิงเนเฟอร์เนเฟรูเร ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างช่วงปีที่ 9 แห่งการครองราชย์ของพระบิดา โดยมีภาพของพระราชวงศ์ทุกพระองค์รวมถึงเจ้าหญิงเซเตเพนเรในขณะที่เป็นทารก
พระองค์ปรากฏอยู่บนภาพสลักภายในหลุมฝังศพหลายๆ แห่งในเมืองอาร์มานา และยังปรากฏบนฐานรูปสลักที่สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นที่เมืองอาร์มานา แต่ต่อมาก็ย้ายมาที่เมืองเฮลิโอโปลิส โดยกล่าวถึงเทพอาเตนกับฟาโรห์อาเคนาเทน และส่วนฐานของรูปส่วนจะกล่าวถึงพระนางอังค์เอสเอนปาอาเตนกับพระองค์
ในหลุมฝังศพของขุนนางระดับสูงนามว่า ฮูยา ซึ่งมีตำแหน่งเป็นหัวหน้าเสนาบดีในพระองค์ โดยปรากฏอยู่ในภาพพระราชวงศ์บนทับหลังบนผนังด้านทิศเหนือ ซึ่งเป็นภาพที่มีฟาโรห์อเคนาเทนกับพระนางเนเฟอร์ติติอยู่ทางด้านซ้ายร่วมกับพระราชธิดาพระองค์โตสี่พระองค์ ในขณะเดียวทางด้านขวาปรากฏภาพสลักของฟาโรห์อเมนโฮเทปที่ 3 พระนางติเย ร่วมกับเจ้าหญิงเบเคตอาเทน ส่วนภาพในหลุมฝังศพของเมริเรที่ 2 ปรากฏภาพของพระองค์ร่วมกับพระภคินีและพระขนิษฐาอีกสี่พระองค์ (ยกเว้นเพียงเจ้าหญิงเซเตเพนเรเท่านั้นที่หายไป)
พระองค์ปรากฏอยู่บนภาพสลักดูร์บาร์ในปีที่ 12 แห่งการครองราชย์ของพระบิดา ในหลุมฝังศพของนักบวชชั้นสูงนามว่า เมริเรที่ 2 ในเมืองอาร์มานา โดยเป็นภาพที่ฟาโรห์อเคนาเทนกับพระนางเนเฟอร์ติติกำลังรับของขวัญจากดินแดนต่างๆ ซึ่งพระองค์กำลังถือสิ่งของที่เสียหายเกินที่จะระบุว่าเป็นอะไร เจ้าหญิงเนเฟอร์เนเฟรูเรกำลังอุ้มตัวเนื้อทราย และเจ้าหญิงเซเตเพนเรกำลังอุ้มสัตว์เลี้ยง[4] ซึ่งทั้งสองพระองค์ยืนอยู่ข้างหลังเจ้าหญิงเนเฟอร์เนเฟรูอาเตน
ทั้งนี้ พระองค์ยังปรากฏบนภาพสลักของปาเนเฮซิ โดยพระองค์ยืนภายในอาคารใกล้หน้าต่าง ในขณะที่ฟาโรห์อเคนาเทนและพระนางเนเฟอร์ติติกำลังให้เกียรติกับผู้เคารพบูชาเทพอาเตนคนแรกนามว่า ปานาเฮซิ และยังปรากฏบนภาพสลักหนึ่งในภายในสุสานเป็นภาพที่พระองค์และพระภคินีอีกสามพระองค์ร่วมกับพระบิดาและพระมารดาแสดงการถวายดอกไม้แด่เทพอาเทน โดยพระราชธิดาทั้งสี่นั้นล้วนแต่ถือช่อดอกไม้[5]
ปีสุดท้ายและการสิ้นพระชนม์
[แก้]ไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้นกับพระองค์ แต่มีข้อสันนิษฐานว่าพระองค์สิ้นพระชนม์ก่อนที่ฟาโรห์ทุตอังค์อามุนกับพระนางอังค์เอสเอนปาอาเตนจะขึ้นครองราชย์ เป็นไปได้ว่าเป็นหนึ่งในเชื้อพระวงศ์ที่ถูกฝังอยู่ในห้องอัลฟา ณ สุสานหลวงในเมืองอาร์มานา
และยังมีข้อสันนิษฐานว่าพระองค์อาจจะเป็นผู้ปกครองร่วมกันกับฟาโรห์อเคนาเตน[6] แต่ก็ยังเป็นข้อถกเถียงอยู่ ซึ่งผู้ปกครองร่วมอาจจะเป็นพระนางเนเฟอร์ติติหรือพระนางเมริทอาเตน ผู้เป็นพระเชษฐาภคินีของพระองค์
อ้างอิง
[แก้]- ↑ Aldred, Cyril, Akhenaten: King of Egypt ,Thames and Hudson, 1991 (paperback), ISBN 0-500-27621-8
- ↑ Tyldesley, Joyce. Nefertiti: Egypt's Sun Queen. Penguin. 1998. ISBN 0-670-86998-8
- ↑ Dodson, Aidan and Hilton, Dyan. The Complete Royal Families of Ancient Egypt. Thames & Hudson. 2004. ISBN 0-500-05128-3
- ↑ Murnane, William J., Texts from the Amarna Period in Egypt, Society of Biblical Literature, 1995 ISBN 1-55540-966-0
- ↑ Dodson, Aidan, Amarna Sunset: Nefertiti, Tutankhamun, Ay, Horemheb, and the Egyptian Counter-Reformation. The American University in Cairo Press. 2009, ISBN 978-977-416-304-3
- ↑ J.P. Allen, The Amarna Succession, in Causing His Name to Live: Studies in Egyptian Epigraphy and History in Memory of William J. Murnane, ed. P. Brand and L. Cooper, Culture and history of the Ancient Near East 37. Leiden: Brill, 2009 p. 14.