การปฏิวัติเยเมน พ.ศ. 2554–2555
การปฏิวัติเยเมน พ.ศ. 2554–2555 | |||
---|---|---|---|
ส่วนหนึ่งของ อาหรับสปริง, วิกฤตการณ์เยเมน | |||
ผู้ประท้วงต่อต้านรัฐบาลในศ็อนอา เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ ค.ศ.2011 | |||
วันที่ | 27 มกราคม ค.ศ. 2011 – 27 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2012 (1 ปี 1 เดือน) | ||
สถานที่ | เยเมน | ||
สาเหตุ |
| ||
วิธีการ |
| ||
ผล | รัฐบาลถูกโค่นล้ม
| ||
คู่ขัดแย้ง | |||
| |||
ความเสียหาย | |||
เสียชีวิต | 2,000 (ในวันที่ 18 มีนาคม ค.ศ.2012)[16] | ||
บาดเจ็บ | 22,000[16] | ||
ถูกจับกุม | 1,000[17] |
การก่อการกำเริบในเยเมน พ.ศ. 2554-2555 หรือเรียกว่า การปฏิวัติเยเมน เกิดขึ้นหลังการปฏิวัติตูนิเซียขั้นเริ่มต้นและเกิดขึ้นพร้อมกับการปฏิวัติอียิปต์ และการประท้วงใหญ่อื่นในตะวันออกกลางเมื่อต้น พ.ศ. 2554 ในระยะแรกของการก่อการกำเริบ การประท้วงในเยเมนเดิมทีต่อต้านภาวะว่างงาน สภาพทางเศรษฐกิจและการฉ้อราษฎร์บังหลวง[1] เช่นเดียวกับข้อเสนอของรัฐบาลที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญของเยเมน ข้อเรียกร้องของผู้ประท้วงจากนั้นได้บานปลายขึ้นเป็นเรียกร้องให้ประธานาธิบดีเยเมน อะลี อับดุลลอฮ์ ศอเลียะห์ ลาออกจากตำแหน่ง มีการแปรพักตร์หมู่จากกองทัพ เช่นเดียวกับจากรัฐบาลของศอเลียะห์ ซึ่งเป็นผลให้ส่วนมากของประเทศอยู่นอกเหนือการควบคุมของรัฐบาลอย่างชะงัด และผู้ประท้วงสาบานว่าจะขัดขืนอำนาจของรัฐบาล
การเดินขบวนหลักที่มีผู้ประท้วงกว่า 16,000 คน มีขึ้นในกรุงซานา เมืองหลวงของเยเมน เมื่อวันที่ 27 มกราคม วันที่ 2 กุมภาพันธ์ ศอเลียะห์ประกาศว่าเขาจะไม่ลงสมัครรับเลือกตั้งอีกใน พ.ศ. 2556 และเขาจะไม่ส่งต่ออำนาจให้บุตรชาย วันที่ 3 กุมภาพันธ์ มีผู้ประท้วง 20,000 คน ประท้วงต่อต้านรัฐบาลในกรุงซานา[18][19] ขณะที่ยังมีการประท้วงในเอเดน[20] นครเมืองท่าทางใต้ของเยเมน ฝ่ายทหาร สมาชิกติดอาวุธของสภาประชาชนทั่วไป และผู้ประท้วงจำนวนมากจัดการชุมนุมสนับสนุนรัฐบาลในกรุงซานา[21] ในวันที่ 18 กุมภาพันธ์ ชาวเยเมนนับหลายหมื่นคนมีส่วนในการเดินขบวนต่อต้านรัฐบาลในเทียซ ซานาและเอเดน ในวันที่ 11 มีนาคม ผู้ประท้วงเรียกร้องการถอดศอเลียะห์ออกจากตำแหน่งในกรุงซานา ซึ่งมีผู้เสียชีวิต 3 ศพ ยังมีการจัดการประท้วงขึ้นอีกในนครอื่น รวมทั้งอัลมุกัลลา ที่ซึ่งมีผู้เสียชีวิต 1 ศพ วันที่ 18 มีนาคม ผู้ประท้วงในกรุงซานาถูกยิงใส่ เป็นผลให้มีผู้เสียชีวิต 52 ศพ และสุดท้ายลงเอยด้วยการแปรพักตร์และลาออกหมู่[22]
เริ่มตั้งแต่ปลายเดือนเมษายน ศอเลียะห์ตกลงต่อข้อตกลงที่มีสภาความร่วมมืออ่าว (Gulf Co-operation Council) เป็นนายหน้า แต่กลับหลีกเลี่ยงก่อนการลงนามตามกำหนดถึงสามครั้ง หลังการหลีกเลี่ยงครั้งที่สาม สภาความร่วมมืออ่าวจึงยุติความพยายามในการไกล่เกลี่ยในเยเมน[23] วันที่ 23 พฤษภาคม หนึ่งวันหลังศอเลียะห์ปฏิเสธจะลงนามในความตกลงเปลี่ยนผ่าน ซาเดค อัล-อาห์มาร์ หัวหน้าสหพันธ์ชนเผ่าฮาชิด หนึ่งในชนเผ่าที่ทรงอำนาจที่สุดในประเทศ ประกาศสนับสนุนฝ่ายต่อต้านและผู้สนับสนุนติดอาวุธของเขาเข้าสู่ความขัดแย้งกับกำลังความมั่นคงที่ยังจงรักภักดีต่อรัฐบาลในกรุงซานา ได้เกิดการสู้รบตามท้องถนนอย่างหนักตามมา ซึ่งรวมทั้งการยิงปืนใหญ่และปืนครก[24][25][26][27][28] ศอเลียะห์และอีกหลายคนได้รับบาดเจ็บ และอย่างน้อยห้าคนถูกสังหารในการทิ้งระเบิดทำเนียบประธานาธิบดีเมื่อวันที่ 3 มิถุนายน เมื่อการระเบิดฉีกผ่านสุเหร่าที่เจ้าหน้าที่รัฐบาลระดับสูงใช้สวดมนต์[29] รายงานขัดแย้งกันว่าการโจมตีเกิดขึ้นจากการระดมยิงหรือระเบิดที่ถูกติดตั้งไว้[30] วันรุ่งขึ้น รองประธานาธิบดี อาบิด อัลรับ มันซูร์ อัลฮาดี รักษาการรัฐการแทนประธานาธิบดี[31] ขณะที่ศอเลียะห์บินไปยังซาอุดิอาระเบียเพื่อรักษาตัว ฝูงชนเฉลิมฉลองการส่งผ่านอำนาจของศอเลียะห์ แต่ทางการเยเมนยืนยันว่า การไม่อยู่ของศอเลียะห์นั้นเป็นเพียงชั่วคราวและอีกไม่นาน เขาจะกลับมาเยเมนเพื่อปฏิบัติตำแหน่งหน้าที่เช่นเดิม[32]
ต้นเดือนกรกฎาคม รัฐบาลปฏิเสธข้อเรียกร้องของฝ่ายต่อต้าน รวมทั้งการจัดตั้งสภาเปลี่ยนผ่านโดยมีเป้าหมายเปลี่ยนผ่านอำนาจอย่างเป็นทางการจากรัฐบาลชุดปัจจุบันเป็นรัฐบาลรักษาการซึ่งมีเจตนาเพื่อดูแลการเลือกตั้งอันเป็นประชาธิปไตยครั้งแรกในประวัติศาสตร์เยเมน[33] กลุ่มต่าง ๆ ของฝ่ายต่อต้านสนองโดยประกาศการจัดตั้งสภาเปลี่ยนผ่านซึ่งมีสมาชิก 17 คนของตนเองเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม ผ่านพรรคประชุมร่วม (Joint Meeting Parties) ซึ่งมีพฤติการณ์เสมือนสิ่งคุ้มครองสำหรับกลุ่มต่อต้านของเยเมนจำนวนมากระหว่างการก่อการกำเริบ แถลงว่า สภามิได้เป็นตัวแทนพวกเขา และไม่ลงรอย "แผนการ" สำหรับประเทศของพวกเขา[34]
วันที่ 23 พฤศจิกายน ศอเลียะห์ลงนามในความตกลงเปลี่ยนผ่านอำนาจซึ่งมีสภาความร่วมมืออ่าวเป็นนายหน้าในกรุงริยาด ซึ่งเขาจะเปลี่ยนผ่านอำนาจไปยังรองประธานาธิบดีของเขาภายใน 30 วัน และสละตำแหน่งประธานาธิบดีเมื่อถึงเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 โดยแลกกับการรอดพ้นการถูกดำเนินคดีอาญา[35][36] แม้พรรคประชุมร่วมจะยอมรับกับข้อตกลงของสภาความร่วมมืออ่าวดังกล่าว แต่ผู้ประท้วงจำนวนมากและกลุ่มฮูธิไม่เห็นด้วย[37][38]
มีการจัดการเลือกตั้งประธานาธิบดีในเยเมนขึ้นเมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 ด้วยรายงานอ้างว่ามีผู้ออกมาใช้สิทธิ 65% ฮาดีได้รับคะแนนเสียง 99.8% อาบิด รับบูฮฺ มันซูร์ อัลฮาดีได้สาบานตนเข้ารับตำแหน่งในรัฐสภาเยเมนเมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 ศอเลียะห์เดินทางกลับประเทศในวันเดียวกันเพื่อเข้าร่วมการเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีของฮาดี[39] หลังการประท้วงนานหลายเดือน ศอเลียะห์ได้ลาออกจากตำแหน่งประธานาธิบดีและเปลี่ยนผ่านอำนาจให้แก่ผู้สืบทอดของเขาอย่างเป็นทางการ เป็นจุดสิ้นสุดการปกครองนาน 33 ปีของเขา[40]
อ้างอิง
[แก้]- ↑ 1.0 1.1 Staff (27 January 2011). "Yemen Protests: 'People Are Fed Up with Corruption'". BBC News. สืบค้นเมื่อ 14 May 2011.
- ↑ อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อafreuters
- ↑ Yemen MPs resign over violence เก็บถาวร 23 พฤษภาคม 2012 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, Al Jazeera, 23 February 2011.
- ↑ "Military restructuring in Yemen: Unravelling a tangled web | Comment Middle East". Commentmideast.com. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 4 ธันวาคม 2012. สืบค้นเมื่อ 7 พฤศจิกายน 2012.
- ↑ Kasinof, Laura (21 มกราคม 2012). "Yemen Legislators Approve Immunity for the President". The New York Times. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 22 มกราคม 2012. สืบค้นเมื่อ 21 มกราคม 2012.
- ↑ JMP เก็บถาวร 3 กุมภาพันธ์ 2011 ที่ Archive-It. Armiesofliberation.com.
- ↑ 7.0 7.1 "Yemen's Brotherhood: Early Losses and an Unknown Future". Al-Monitor. 25 กันยายน 2013. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 21 สิงหาคม 2017. สืบค้นเมื่อ 21 สิงหาคม 2017.
- ↑ South Yemen movement Protests เก็บถาวร 10 ตุลาคม 2013 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน. Adenyouth.wordpress.com (28 April 2011).
- ↑ The crucible of Yemen เก็บถาวร 25 ตุลาคม 2011 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน. Al Jazeera.net.
- ↑ YEMEN: Student protests gather strength after deaths เก็บถาวร 24 กุมภาพันธ์ 2013 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน. Universityworldnews.com (27 February 2011).
- ↑ Associates, Menas. (24 May 2011) YEMEN: Hashid tribe clashes with security forces เก็บถาวร 1 กุมภาพันธ์ 2016 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน. Menasassociates.blogspot.com.
- ↑ Yemeni tribes form coalition against Saleh. The Straits Times. เก็บถาวร 21 มกราคม 2012 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- ↑ "10,000 Yemeni forces defect from government, join protesters: official". Xinhua News Agency. 13 เมษายน 2011. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 17 เมษายน 2011. สืบค้นเมื่อ 20 เมษายน 2011.
- ↑ Johnston, Cynthia (24 มีนาคม 201). "Yemen Forces Clash over Saleh Before Friday Protest". Reuters. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 12 มกราคม 2012. สืบค้นเมื่อ 20 เมษายน 2011.
- ↑ "The Yemeni National Dialog Committee Issues Vision for National Salvation". Armies of Liberation. 20 มีนาคม 2010. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 3 กุมภาพันธ์ 2011. สืบค้นเมื่อ 20 เมษายน 2011.
- ↑ 16.0 16.1 Yemen says more than 2,000 killed in uprising เก็บถาวร 25 มีนาคม 2012 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน. The Washington Post. (19 March 2012).
- ↑ report: Over 1,000 missing, possibly tortured[ลิงก์เสีย], 8 November 2011
- ↑ Daragahi, Borzou; Browning, Noah (3 February 2011). "Tens of Thousands Turn Out for Rival Rallies in Yemen – Anti-Government Protesters in Sana Are Met with a Competing Rally Across Town by the President's Supporters, Who Get Logistical Support from the Army". Los Angeles Times. สืบค้นเมื่อ 29 April 2011.
{{cite news}}
: CS1 maint: multiple names: authors list (ลิงก์) - ↑ Staff (29 January 2011). "Yemen Protests: 20,000 Call for President Saleh To Go". BBC News. สืบค้นเมื่อ 29 April 2011.
- ↑ Staff (3 February 2011). "Opposing Protesters Rally in Yemen – Anti-Government Demonstrators Reiterate Calls for President To Stand Down While His Supporters Stage a Counter Rally". Al Jazeera English. สืบค้นเมื่อ 29 April 2011.
- ↑ Staff (3 February 2011). "Saleh Partisans Take Over Yemen Protest Site". Agence France-Presse (via oneindia.in). สืบค้นเมื่อ 29 April 2011.
- ↑ "Yemen president Saleh fights to keep grip on power". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-07-16. สืบค้นเมื่อ 2021-10-12.
- ↑ "Yemen transition deal collapses". Al Jazeera English. 22 May 2011. สืบค้นเมื่อ 23 May 2011.
- ↑ "Yemen's president vows to resist 'failed state' as tribes press offensive against regime". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-09-28. สืบค้นเมื่อ 2012-03-01.
- ↑ Tribal fighters occupy government buildings in Yemen
- ↑ Street battles in Sana'a between Saleh loyalists and tribal guards
- ↑ "Fighting grips Yemeni capital as Saleh orders arrests". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-06-18. สืบค้นเมื่อ 2012-03-01.
- ↑ Yemen officials: 38 killed in capital fighting
- ↑ Yemen palace shelled; sheikh, guards killed, president, PM hurt
- ↑ "40% من جسم صالح مصاب". Al Jazeera Mubasher. 10 June 2011. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-07-23. สืบค้นเมื่อ 11 June 2011.
- ↑ "Al-Hadi acting President of Yemen". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-11-27. สืบค้นเมื่อ 2012-03-01.
- ↑ Yemeni crowds celebrate after president transfers power, flies to Saudi Arabia
- ↑ "Minister Says Yemen Will Not Accept a Transitional Council". NTDTV. 6 July 2011. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-10-04. สืบค้นเมื่อ 7 July 2011.
- ↑ "Yemen protesters set up transitional council". Reuters. 16 July 2011. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2015-09-24. สืบค้นเมื่อ 17 July 2011.
- ↑ Yemen's Saleh signs deal to quit power
- ↑ Yemen leader signs power-transfer deal
- ↑ [1]
- ↑ "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-06-01. สืบค้นเมื่อ 2012-03-01.
- ↑ http://online.wsj.com/article/SB10001424052970203918304577244581296702946.html?mod=googlenews_wsj
- ↑ "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-05-25. สืบค้นเมื่อ 2012-03-01.
แหล่งข้อมูลอื่น
[แก้]- อิสลาม.in.th : เพื่อความเข้าใจอิสลาม และมุสลิม เก็บถาวร 2009-10-02 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน